แบ่งออกได้ 5 เลเยอร์ ดังนี้
Layer I การบริการแอพพลิเคชั่น ในด้านการทำ CRM,SCM,การทำเหมืองข้อมูล,ระบบจัดการฐานข้อมูล
Layer II ระบบบริการซอฟต์แวร์ เช่น เว็บบราวซ์เซอร์,ซอฟต์แวร์จัดการเครือข่าย และการจัดการฐานข้อมูล
Layer III ชั้นกรขนส่งหรือเครือข่าย ดูในส่วนระบบทางกายภาพของเครื่อข่าย รวมไปถึงมาตรฐาน Protocol (TCP/IP)
Layer IV ชั้นสำรองข้อมูล,เก็บข้อมูล โดยกาแบล็คอัพข้อมูลด้วยวิธีการต่างๆ ไว้ในหน่วยความจำสำรอง
Layer V การจัดการข้อมูล เช่น เว็บแสดงเนื้อหาสำหรับ Intranet, Extranet และ Internet ข้อมูลลูกค้า ข้อมูลรายงานประจำวัน เป็นต้น
ประเภทของปัญหาที่มักพบในการทำ E-Business
1. การเชื่อมต่อกับเว็ปบที่ล่าช้า
2. เว็บไซต์ไม่สามารถใช้งานได้
3. เกิดข้อบกพร่องในการเข้าเว็บไซต์ เช่น เกิด Bugs หน้าเว็บเข้าไม่ได้
4. การสั่งรายการสินค้าไม่ถูกส่งไปในเวลาที่กำหนด
5. ไม่ได้รับอีเมล์ตอบกลับ
6. ข้อมูลลูกค้ารั่วไหลจากความผิดพลาดของระบบป้องกัน
ความสัมพันธ์ระหว่าง Internet, Extranet และ Intranet
Internet
อินเทอร์เน็ต หมายถึง เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ที่มีการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายหลาย ๆ เครือข่ายทั่วโลก โดยใช้ภาษาที่ใช้สื่อสารกันระหว่างคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า โพรโทคอล (protocol) ผู้ใช้เครือข่ายนี้สามารถสื่อสารถึงกันได้ในหลาย ๆ ทาง อาทิ อีเมล เว็บบอร์ด และสามารถสืบค้นข้อมูลและข่าวสารต่าง ๆ รวมทั้งคัดลอกแฟ้มข้อมูลและโปรแกรมมาใช้ได้
Extranet
เอ็กทราเน็ต เป็นเชื่อมต่อหว่าง Intranet กับ Intranet เข้าด้วยกัน หรือพูดง่ายๆ คือ เชื่อมต่อระหว่าง Intranet ของสององค์กร Supplier Customer แต่จะมีปัญหาในเรื่องช่องโหว่ของการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ซึ่งแต่ละองค์กรจะต้องตกลงกันก่อน
Intranet
อินทราเน็ต คือ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ในองค์กรแบบ Private Network การใช้งานอินราเน็ตต้องใช้ Protocol IP เหมือนกัน การเข้าถึงข้อมูลจะให้สิทธิกับพนักงานภายในแผนกนั้นๆ ในการแบ่งปันข้อมูลข่าวสาร สารสนเทศจากเว็บประชาสัมพันธ์หรือหน้าเว็ปไซต์ขององค์กร
การประยุกต์ใช้ Intranet
- ใช้กันอย่างกว้างขวางในการสนับสนุน E-Commerce ด้าน Sell Side
- ใช้ในการติดต่อสื่อสารด้านการตลาดภายใน
การประยุกต์ใช้ Extranet
- ใช้เพื่อให้บริการออนไลน์กับคู่ค้าทางธุรกิจที่ได้รับอนุญาติให้เข้าถึงข้อมูลในส่วนนั้น
ผลประโยชน์ทางธุรกิจของ Extranet
- ช่วยในการแบ่งปันสารสนเทศ
- ลดต้นทุนค่าใช้จ่าย
- ช่วยในการประมวลผลและกระจายคำสั่ง
- ช่วยบริการลูกค้า
ไฟล์วอล (Firewall)
เป็นซอฟต์แวร์พิเศษที่ติดตั้งแยกจากเซ ิฟเวอร์เป็นจุด ขณะที่องค์กรเชื่อมต่อกัยอินทราเน็ต เพื่อป้องกันข้อมูลขององค์กรไม่ให้รั่วไหล หรือป้องกันการเจาะข้อมูลจากด้านนอกเข้ามายังเซิฟเวอร์
ตำแหน่งการติดตั้วไฟล์วอลในองค์กรแบบ B2B
การแลกเปลี่ยนสารสนเทศระหว่าง web browser กับ web server
WEB EVOLUTION
web 1.0
เว็บไซต์ก็จะเป็นการนำเอาข้อมูลที่ตัวเอง ต้องการนำเสนอไปทำในรูปแบบของ html หรือข้อมูลต่างๆที่เราเห็นอยู่นั่นแหละไปใส่ไว้ในเว็บไซต์ หรืออินเตอร์เน็ต ส่วนเราผู้ใช้ก็มีหน้าที่ คือกดเข้าไปอ่านส่วนเจ้าของก็คือมีหน้าที่คือ Update ข้อมูลเข้ามาทำกันไปกันมาแบบเดียวกันนี้แหละ ซึ่งโดยสรุปเราอาจจะเรียกวิธีการแบบนี้ว่าเป็นการสื่อสารแบบทางเดียว หรือเรียกว่า One Way Communication
web 2.0
เว็บไต์ก็เริ่มมีการพัฒนา พวก WEB Board, Blog, มีการนำภาพมาแชร์ นำ วีดีโอ มา Post มีการแชร์ แบ่งปัน แลกเปลี่ยนข้อมูลสารสนเทศ นที่เข้ามาใช้งานเว็บไซต์กันเองเรียกว่า ผู้ใช้กลายเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ ข้อมูล หรือ Content ในเว็บไซต์นั้นมีการ update และพัฒนา ปรับปรุง อย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้เว็บไซต์มีรูปแบบของการสื่อสารเป็นแบบสองทาง หรือ Two Way Communication
web 3.0
เป็นยุคที่เน้นเรื่องการจัดการข้อมูลในเว็บมากขึ้น มีการแก้ไขปัญหาของข้อมูลหรือ Content ที่ไม่มีคุณภาพต่างๆ ที่ WEB 2.0 ได้สร้างขึ้นมากกว่าการสร้างบนพื้นฐานความรู้ใหม่ ซึ่งมีการขยายขนาดและเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วทำยังไงละผู้ใช้ถึงจะสามารถเข้าถึง Content หรือสิ่งที่ตัวเองต้องการได้ง่ายและตรงความต้องการมากที่สุด สะดวกที่สุด
web 4.0
บางทีเขาเรียกกันว่า “A Symbiotic web” คือเว็บที่ทำงานแบบ Artificial Intelligence (AI) ที่ฉลาดมากยิ่งขึ้น คอมพิวเตอร์สามารถคิดได้ มีความฉลาดมากขึ้น ในการอ่านทั้งเนื้อหา ข้อความ และรูปภาพ หรือวีดีโอ สามารถที่จะตอบสนองหรืตัดสินใจได้ว่าจะ load ข้อมูลอะไร จากไหน ที่จะให้ประสิทธิภาพดีที่สุดมาให้ผู้ใช้งานก่อนก่อน และนอกจากนี้ยังมีรูปแบบการนำมาแสดงที่รวดเร็ว เว็บ 4.0 จะทำให้เว็บ หรือข้อมูลต่างๆ สามารถทำงานได้แทบจะทุก Device หรืออาจจะช่วยระบุตัวตนที่แท้จริงของผู้ใช้เอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น